ประกันรถยนต์นั้นเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญพอๆ กับการดูแลรถเลยทีเดียว เพราะเมื่อยามที่เราใช้รถใช้ถนนแล้วเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นมาประกันรถยนต์นี่แหละที่จะเป็นเพื่อนคอยช่วยเหลือเราให้สามารถก้ามข้ามอุปสรรคปัญหาไปได้ และสำหรับใครที่ประกันเดิมกำลังจะหมดอายุและกำลังให้ความสนใจประกันรถยนต์ชั้น 2 อยู่ วันนี้เรามาศึกษากันว่าประกันรถยนต์ชั้น 2 นั้นเหมาะกับใครและรถแบบไหนบ้างที่ควรทำ
รถที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 15 ปี
อายุการใช้งานของรถก็ถือเป็นเกณฑ์สำคัญในการพิจารณาว่าประกันประเภทไหนจะเหมาะสมและตอบโจทย์ได้มากที่สุด สำหรับรถที่มีอายุงานใช้งานมามากพอแล้วแต่ยังคงต้องการความคุ้มครองอยู่เพราะอุบัติเหตุที่จะนำพาความเสียหายมาให้นั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ และทุกครั้งที่มีการนำรถออกไปใช้บนท้องถนนถึงแม้ว่าเราจะเป็นคนขับรถที่มีประวัติการขับขี่ที่ดี แต่เมื่อเราออกไปเจอผู้ใช้รถใช้ถนนมากหน้าหลายตาย่อมเป็นการเปิดโอกาสให้ความเสียหายเข้ามาหาตัวเราเสมอ เพราะไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าใครจะสร้างความเสียหายจนมากระทบเรา ซึ่งประกันรถยนต์ชั้น 2 ก็ถูกออกแบบมาให้ตรงกับโจทย์ความต้องการนี้
รถที่ไม่ค่อยถูกนำไปใช้งาน
สำหรับรถที่ไม่ค่อยได้นำออกไปใช้งานบนท้องถนนนั้นย่อมมีความเสี่ยงที่จะได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุน้อยกว่า ซึ่งประกันรถยนต์ชั้น 2 นั้นจะไม่ได้ให้ความคุ้มครองในกรณีที่รถได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ จึงสามารถตอบโจทย์รถที่ไม่ได้นำออกไปขับบนถนนได้อย่างเหมาะสม ในขณะเดียวกันถึงแม้จะจอดเอาไว้ในบ้านที่ซึ่งมีความปลอดภัยกว่าอยู่แล้วก็ยังคงต้องการการคุ้มครองเผื่อในกรณีที่รถสูญหายหรือไฟไหม้ก็จะได้รับการคุ้มครอง
คนขับที่สามารถดูแลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของรถเองได้
ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุนั้นย่อมมีความเสียหายเสมอ และถ้าเราเป็นฝ่ายผิดหรือเป็นคนก่อให้เกิดความเสียหายและมีบุคคลอื่นได้รับผลกระทบไปด้วย ประกันรถยนต์ชั้น 2 ก็สามารถให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับร่างกายและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกได้ ซึ่งรถของเราจะไม่ได้รับ ดังนั้น ถ้าใครที่พอมีกำลังทางการเงิน สามารถดูแลและรับผิดชอบค่าซ่อมหรือค่าเสียหายของรถตัวเองได้แต่ยังคงต้องการให้มีความคุ้มครองในส่วนของความเสียหายของคนอื่น ประกันรถยนต์ชั้น 2 ถือว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่ง
คนขับรถที่มีวินัยและไม่ประมาท
ในกรณีที่เราเป็นคนขับรถที่ค่อนข้างมีความชำนาญมากพอในการขับขี่และไม่ประมาทง่ายๆ ก็จะมีโอกาสน้อยที่จะเป็นฝ่ายผิดหรือเป็นฝ่ายก่อความเสียหายให้ผู้อื่น ดังนั้น ประกันรถยนต์ชั้น 2 ที่ไม่ได้ให้ความคุ้มครองเมื่อรถของเราได้รับความเสียหายจากกรณีที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ก็สามารถตอบโจทย์ข้อนี้ได้อย่าเหมาะสมอีกเช่นกัน